โทรคมนาคมอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีไร้สาย
5.1 ภาพรวมของการสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย ก่อให้เกิดการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ต่อการดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิม ไปสู่การดำเนินธุรกิจที่สามารถติดต่อสื่อสารระยะไกลได้ทั่วโลกผ่านระบบเครือข่าย ที่นอกจากนำมาประยุกต์ใช้เพื่อการสื่อสารภายในองค์กรแล้ว ยังสามารถเชื่อมโยงการทำธุรกิจระหว่างองค์กรกับบริษัทคู่ค้าในระดับสากลได้ถึงกันทั่วโลก โดยอินเทอร์เน็ต เว็บ รวมถึงอินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต ต่างก็เป็นเครือข่ายที่สามารถนำมาผนวกเข้ากับกระบวนการธุรกิจ ที่องค์กรสามารถนำมาใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของตน การติดต่อกับผู้ขายปัจจัยการผลิต และบริษัทคู่ค้าอื่นๆ ดังนั้น คณะทำงานในองค์กรจึงพร้อมที่จะร่วมมือกันสรรค์สร้างชิ้นงานใหม่ๆ และจัดการทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อให้การปฏิบัติงานทางธุรกิจดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันเพื่อชิงชัยกับคู่แข่ง ภายใต้สภาวการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
คุณลักษณะสำคัญของการสื่อสารโทรคมนาคมคือ ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูล(Transmission Speed) ที่สามารถประเมินได้จากความจุข้อมูลที่ส่งผ่านสื่อกลางในระบบสื่อสาร หรือที่เรียกว่า แบนด์วิดธ์(Bandwidth) ซึ่งปกติจะมีหน่วยวัดเป็นบิตต่อวินาที (Bit per second : bps) กิโลบิตต่อวินาที (Kilobit per second : Kbps) เมกะบิตต่อวินาที (Megabits per second : Mbps) กิกะบิตต่อวินาที (Gigabit per second : Gbps) และเทราบิตต่อวินาที (Terabit per second : Tbps) ซึ่งเป็นไปดังต่อไปนี้
หน่วยวัด
|
จำนวนข้อมูล (โดยประมาณ)
|
bps
|
บิตต่อวินาที
|
Kbps
|
หนึ่งพันบิตต่อวินาที
|
Mbps
|
หนึ่งล้านบิตต่อวินาที
|
Gbps
|
หนึ่งพันล้านบิตต่อวินาที
|
Tbps
|
หนึ่งล้านล้านบิตต่อวินาที
|
หน่วยประเมินความเร็วของการส่งผ่านข้อมูลหรือแบนด์วิดธ์
5.2 แนวโน้มด้านการสื่อสารโทรคมนาคม
การสื่อสารโทรคมนาคม คือ การแลกเปลี่ยนสารสนเทศที่อยู่ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ข้อมูล ข้อความ รูปภาพ ออดิโอ และวิดีโอ ด้วยการส่งผ่านเครือข่าย ซึ่งแต่เดิมนั้น เครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อกำหนดเส้นทางการจราจรบนเครือข่ายได้ และความเร็วในการส่งผ่านก็จะช้ามาก เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ สำหรับแนวโน้มหลักๆ ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในส่วนของการบริหารจัดการโดยตรง ดังนั้นเราจึงต้องรับทราบถึงแนวโน้มหลักของการสื่อสารโทรคมนาคม ทั้งในด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และการใช้งาน ที่มีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มแนวทางในการตัดสินใจ และต้องนำมาประยุกต์ใช้ เพื่องานบริหารจัดการมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น
5.2.1 แนวโน้มด้านอุตสาหกรรม(Industry Trends)
สังเวียนการแข่งขันในส่วนของการบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ได้ถูกปรับโฉมภายในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้เอง เนื่องจากแต่เดิม อุตสาหกรรมด้านการสื่อสารโทรคมนาคมมักถูกผูกขาดโดยภาครัฐเป็นหลัก แต่ด้วยปัจจุบันความต้องการด้านบริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมมีสูงมาก ส่งผลต่อภาครัฐที่ไม่สามารถบริการได้อย่างทั่วถึง ต่อมาจึงมีการจัดวางกฎระเบียบใหม่ ด้วยการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในด้านการบริการในครั้งนี้ได้ จึงก่อให้เกิดการแข่งขันระหว่างบริษัทที่ให้บริการ ซึ่งต่างก็งัดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อขอชิงส่วนแบ่งทางการตลาด และในที่สุดก็จะเกิดการบริการใหม่ๆ แก่ประชาชนทั่วไป ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการบริการที่ง่ายขึ้น สะดวกรวดเร็ว และมีต้นทุนที่ถูกลง
การเปลี่ยนแปลงการบริการที่กระจายไปสู่ภาคเอกชนนี้เอง จึงก่อให้เกิดบริษัทเอกชนหลายแห่งด้วยกันที่เปิดบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อเพิ่มโอกาสแก่ลูกค้าในการเลือกใช้บริการการสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดาวเทียม วิทยุติดตามตัว โทรศัพท์เคลื่อนที่ เคเบิลทีวี และอินเทอร์เน็ต
และด้วยอัตราการเติบโตของอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บ ส่งผลให้เกิดเว็บไซด์เพิ่มขึ้นทุกวันราวดอกเห็ด จึงทำให้มีบริษัทเอกชนหลายรายด้วยกันที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อบริการทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการบริการอินเทอร์เน็ตให้กับตามภาคธุรกิจ และส่วนบุคคลตามบ้านเรือนทั่วไป รวมถึงการเช่าพื้นที่โฮสติ้ง(Hosting) ซึ่งปกติตามภาคธุรกิจทั่วไป มักเลือกใช้บริการสายเช่าความเร็วสูง (Leased Line) เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างอีคอมเมิร์ช หรือใช้สื่อสารกับภาคธุรกิจด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีช่องทางการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอื่นๆ อีก เช่น โครงข่าย VPN หรือ ADSL ซึ่งผู้ประกอบการทั่วไปสามารถนำมาพิจารณาเพื่อเลือกใช้ให้กับองค์กรได้ตามความเหมาะสม
5.2.2 แนวโน้มด้านเทคโนโลยี(Technology Trends)
การเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดบนระบบเปิด (Open System) ด้วยการใช้เทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถือเป็นจุดประสงค์บนแพล็ตฟอร์มของเทคโนโลยีดังกล่าว และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมในยุคปัจจุบันจึงถือเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีอื่นๆ ตามมา เช่น โปรแกรมท่องเว็บหรือเว็บเบราเซอร์ ซอฟต์แวร์ช่วยสร้างเว็บเพจ อินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ อินทราเน็ตเซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์จัดการระบบเครือข่าย ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครือข่ายและโปรโตคอล TCP/IP และอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยบนเครือข่าย เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ล้วนถูกนำมาประยุกต์ใช้บนอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ตทั้งสิ้น รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ชและการทำงานร่วมกันบนเครือข่าย นอกจากนี้ แนวโน้มด้านกำลังเสริมและความรู้เชิงเทคนิคของอุตสาหกรรมนี้ จะขยายตัวไปสู่การสร้างระบบเครือข่ายไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสถาปัตยกรรมระบบเปิด
ระบบเปิดก็คือระบบสารสนเทศที่ใช้มาตรฐานเหมือนๆ กัน สำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ โปรแกรมประยุกต์ และเครือข่าย ระบบเปิดมีความคล้ายคลึงกับอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ตด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมด้านการประมวลผล ที่เปิดให้ผู้ใช้และระบบคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย จะเป็นคอมพิวเตอร์คนละระดับ คนละแพล็ตฟอร์ม แต่ด้วยการทำงานของระบบเปิด จะทำให้ความแตกต่างบนสถาปัตยกรรมของระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เหล่านั้นสามารถทำงานร่วมกันได้ หรือที่เรียกว่า Interoperability นั่นเอง
แนวโน้มอันสำคัญในด้านอื่นๆ ของเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมก็คือ การเปลี่ยนแปลงจากสื่อกลางส่งข้อมูลอย่างสายทองแดงและระบบสถานีไมโครเวฟภาคพื้นดิน มาเป็นการใช้สายไฟเบอร์ออปติกและระบบเซลลูล่าร์ การสื่อสารผ่านระบบดาวเทียม และเทคโนโลยีไร้สาย โดยที่สายไฟเบอร์ออปติกจะเป็นสื่อกลางส่งข้อมูลที่จะแปลงสัญญาณดิจิตอลให้มาเป็นสัญญาณแสง ให้มีความเข้มเพียงพอต่อการส่งผ่านไปยังท่อส่งด้วยความเร็วสูง อีกทั้งยังสามารถส่งข้อมูลได้ปริมาณมากบนระยะทางไกลๆ และมีความปลอดภัยมากกว่าสายสัญญาณประเภทอื่นๆ ส่วนการสื่อสารผ่านระบบดาวเทียม จะทำให้การส่งผ่านข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นออดิโอ หรือวิดีโอ สามารถสื่อสารระหว่างพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกันได้ เช่น การสื่อสารข้ามประเทศ หรือข้ามทวีป และท้ายสุด เทคโนโลยีไร้สาย เช่น วิทยุติดตามตัว และระบบไร้สายอื่นๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เซลลูล่าร์ เครื่องพีดีเอ และการเชื่อมโยงเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซึ่งเทคโนโลยีไร้สายมีส่วนช่วยในการอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานแก่ผู้ใช้เป็นอย่างมาก มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถพกพาอุปกรณ์เหล่านี้เพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้ทุกเมื่อแม้อยู่นอกสถานที่ก็ตาม
5.2.3 แนวโน้มด้านการใช้งานทางธุรกิจ(Business Application Trends)
การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยี ถือเป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจที่นำระบบการสื่อสารโทรคมนาคมมาใช้งานอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้แนวโน้มการขยายตัวของผู้ขาย ผู้ให้บริการ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และระบบเปิด รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต เวิลด์ไวด์เว็บ อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต ย่อมส่งผลถึงความเป็นไปได้ต่อการใช้ระบบการสื่อสารโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้นโดยปริยาย ทั้งในรูปแบบของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ อีคอมเมิร์ช การทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรและการประยุกต์ใช้ทางธุรกิจในด้านอื่นๆ ที่สนับสนุนงานด้านปฏิบัติการ การจัดการ และถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของภาคธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่
5.3 มูลค่าทางธุรกิจของเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม
มูลค่าทางธุรกิจที่เกิดจากการนำเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมมาใช้นั้น เราสามารถชี้ระบุลงไปได้ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจากการใช้อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมอื่นๆนั้น สามารถช่วยองค์กรลดต้นทุน ลดเวลาการดำเนินงาน การสนับสนุนระบบอีคอมเมิร์ช การทำงานร่วมกันบนเครือข่ายให้มีทิศทางที่ดีขึ้นการพัฒนากระบวนการปฏิบัติงานแบบออนไลน์ การแชร์ทรัพยากรใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมมาประยุกต์ใช้ทั้งสิ้น และถือเป็นกลยุทธ์สำหรับขององค์กรที่ต้องค้นหาแนวทางใหม่ๆ ในการแข่งขันที่ครอบคลุมถึงตลาดภายในประเทศและตลาดโลก
ความสามารถเชิงกลยุทธ์
|
ตัวอย่างธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์
|
มูลค่าทางธุรกิจ
|
ขจัดปัญหาอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์ (ระยะทาง)
สามารถรับส่งข้อมูลทางธุรกิจได้
แม้ว่าทั้งสองฝั่งจะมีแห่งที่ตั้งห่างไกล
กันก็ตาม
|
พนักงานสามารถใช้อินเทอร์เน็ต
และเอ็กซ์ทราเน็ต เพื่อส่งคำสั่งซื้อ
ของลูกค้าไปยังศูนย์ข้อมูล และ
การควบคุมสินค้าคงคลัง ซึ่งจะ
ดำเนินการแบบออนไลน์
|
นำเสนอการบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า
ป้องกันการสั่งซื้อสินค้าล่าช้า และ
ช่วยปรับปรุงระบบกระแสเงินสด
ในด้านของการจัดการชำระหนี้
ของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
|
ขจัดปัญหาด้านเวลา
สามารถจัดเตรียมสารสนเทศเพื่อส่ง
ไปยังจุดหมายปลายทางได้ทันที เมื่อ
ฝั่งหนึ่งมีการร้องขอข้อมูล
|
ระบบร้านค้าปลีกหน้าร้าน ที่
ออนไลน์เชื่อมโยงกับทางธนาคาร
เมื่อลูกค้าชำระค่าสินค้าผ่านสินเชื่อ
บัตรเครดิตก็จะสามารถตรวจสอบ
ยอดวงเงิน และรอรับคำอนุมัติจาก
ธนาคารได้ทันที
|
การร้องขอสินเชื่อ สามารถดำเนิน
การแบบอัตโนมัติให้แล้วเสร็จ
และรู้ถึงการตอบรับคำอนุมัติจาก
ทางธนาคารได้ภายในไม่กี่วินาที
|
ขจัดปัญหาเกี่ยวกับต้นทุน
ด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสาร
โทรคมนาคมสมัยใหม่ จะช่วยลด
ต้นทุนได้มาก เมื่อเทียบกับระบบ
แบบดั้งเดิม
|
สามารถประชุมผ่านระบบวิดีโอ
คนอเฟอเร็นซ์ระหว่างองค์กร
ด้วยกัน และรวมถึงบริษัทคู่ค้า
ด้วยการใช้อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต
และเอ็กซ์ทราเน็ต
|
ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ
ในด้านการเดินทาง ด้วยการ
อนุญาตให้ลูกค้า ผู้ขายปัจจัยการ
ผลิต และพนักงานได้มีโอกาส
เข้าร่วมประชุมด้วยกัน ซึ่งช่วยให้
การตัดสินใจมีคุณภาพยิ่งขึ้น
|
ขจัดปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง
สนับสนุนการเชื่อมโยงกลยุทธ์ต่างๆ
เข้าด้วยกัน เพื่อชิงความได้เปรียบใน
เชิงแข่งขัน
|
นำระบบอีคอมเมิร์ชแบบ B-to-B
และเว็บไซต์เพื่อจัดทำรายการกับ
ผู้ขายปัจจัยการผลิต และลูกค้าด้วย
การใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต และ
เอ็กซ์ทราเน็ต
|
ช่วยให้การบริการมีความรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นอีกทั้งยังสามารถผูกมัดลูกค้าและผู้ขายปัจจัยการผลิตได้
|
จากตารางข้างต้นที่แสดงถึงการนำเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมมาใช้งานในธุรกิจ จะพบว่าสามารถนำมาช่วยงานในด้านต่างๆ และเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้กับองค์กรได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะด้านภูมิศาสตร์ โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารบนระยะทางไกลๆ จะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป การลดเวลา ลดต้นทุน และลดปัญหาอุปสรรคด้านโครงสร้าง จนนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจ โดยในที่นี้จะขอยกตัวอย่างมูลค่าทางธุรกิจบนความสามารถเชิงกลยุทธ์ทั้ง 4 ประการของเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งจากตารางจะมุ่งเน้นถึงการประยุกต์ใช้งานอย่างไรในด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถช่วยองค์กรในด้านการจัดหาและได้มาซึ่งสารสนเทศอันรวดเร็ว ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงระยะไกลเพื่อการลดต้นทุน ในขณะเดียวกันก็จะสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น
- พนักงานขายที่ต้องเดินทางไปพบปะลูกค้า และรวมถึงสำนักงานขายตามท้องที่ต่างๆ สามารถใช้อินเทอร์เน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และเครือข่ายอื่นๆ ในการส่งข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรือพีซีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการหยุดปัญหาด้านอุปสรรคของระยะทาง
- ระบบร้านค้าปลีกหน้าร้าน (POS) ที่ได้เตรียมเครื่องเทอร์มินัลไว้สำหรับออนไลน์เพื่อบันทึกรายการขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายและเชื่อมโยงกับทางธนาคาร ช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคด้านเวลาออกไปได้ ทำให้สามารถบันทึกรายการขาย และการรอรับคำอนุมัติสินเชื่อ ในกรณีที่ลูกค้าเลือกการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
- การประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ ช่วยลดต้นทุนการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุมที่มาจากสถานที่ต่างๆ
- พนักงานมีส่วนร่วมในการพบปะ และสามารถทำงานร่วมกันได้ในทุกหนแห่ง โดยไม่ต้องเดินทาง
- สุดท้ายนี้ สำหรับการดำเนินธุรกิจระหว่างภาคธุรกิจด้วยกัน อีคอมเมิร์ช และเว็บไซต์ ที่องค์กรได้นำมาใช้นั้นจะช่วยเสริมสร้างเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า และผู้ขายปัจจัยการผลิต ที่อำนวยด้านความสะดวก ความรวดเร็วในการติดต่อ เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจแบบยั่งยืน
ที่มา : http://jubjang-mis.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น