บทที่ 3
โครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศ
โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกรอบงานบูรณาการภายใต้เครือข่ายดิจิตอลทำงานอยู่
โครงสร้างพื้นฐานนี้ประกอบด้วย
ศูนย์ข้อมูล, เครื่องคอมพิวเตอร์, เครือข่ายคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์จัดการฐานข้อมูลและระบบการกำกับดูแลในเทคโนโลยีสารสนเทศและบนอินเทอร์เน็ต โครงสร้างพื้นฐานเป็นฮาร์ดแวร์ทางกายภาพที่ถูกใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายตัวและผู้ใช้หลายคน โครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วยสื่อการส่งผ่าน, รวมทั้งสายโทรศัพท์, สายเคเบิลทีวี, ดาวเทียมและเสาอากาศ และยังมีเราท์เตอร์หลายตัวที่ใช้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเทคโนโลยีการส่งผ่านทั้งหลายที่แตกต่างกันในการใช้งานบางครั้ง โครงสร้างพื้นฐานหมายถึงการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ และไม่ติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆที่เชื่อมต่อกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศบางคน โครงสร้างพื้นฐานถูกมองว่าเป็นทุกอย่างที่สนับสนุนการไหลและการประมวลผลของข้อมูลบริษัทโครงสร้างพื้นฐานมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอินเทอร์เน็ต พวกเขามีอิทธิพลว่าที่ไหนบ้างต้องมีการเชื่อมโยง, ที่ไหนบ้างที่ข้อมูลจะต้องถูกทำให้สามารถเข้าถึงได้ และ จำนวนข้อมูลที่สามารถดำเนินการได้และทำได้รวดเร็วได้อย่างไร
ประกอบด้วย 3 ระบบหลัก ดังนี้
1. ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งจะประกอบด้วยดังต่อไปนี้
1.1 Hardware
- desktop computer
- notebook computer
- Tablet
- Server
1.2 Software
- ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
- ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
1.3 People ware
- ผู้บริหารระบบคอมพิวเตอร์ (System Manager)
- ผู้ออกแบบและวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ (System Analysis)
- ผู้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Programmer)
- ผู้ดูแลและซ่อมบารุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (Supporter)
- ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ (User)
1.4 Data
- ข้อมูลขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับหน่วยงาน (วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย โครงสร้างองค์กร ฯลฯ)
- ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน (อาคาร ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ครุภัณฑ์ ฯลฯ)
- ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบ กฎเกณฑ์การ-ดาเนินงาน กระบวนการปฏิบัติงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร
- ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน (ประวัติ ผลการเรียน สุขภาพ ความสามารถ ฯลฯ)
- ข้อมูลการดาเนินการ (ข้อมูลโครงการ หลักสูตร บัญชีการเงิน)
- ข้อมูลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน (ข้อมูลผู้ปกครอง โควต้า ทุนต่าง ๆ)
- ข้อมูลภายนอกอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์
1.5 Documentation/Procedure
- บริหารงานวิชาการ
- บริหารงานกิจการนักเรียน
- บริหารงานธุรการ การเงิน พัสดุ ครุภัณฑ์
- บริหารงานอาคารสถานที่
- บริหารงานชุมชน
- บริหารงานบุคลากร
2. ระบบเครือข่าย
2.1 Lan
- ใยแก้วนาแสง
- เซิร์ฟเวอร์
- ไคลเอนต์
- เนทเวิร์ค สวิตช์ (Switch)
- เราต์เตอร์ (Router)
- บริดจ์ (Bridge)
2.2 Wifi
- เราต์เตอร์ (Router)
2.3 Could
- OneDrive
- iCloud
- Google Drive
- Dropbox
- Box
- Copy
- Amazon Cloud Drive
- MediaFire
- MiMedia
- SpiderOak
- SugarSync
- Symform
- Syncplicity
2.4 Mobile
- 3G
- 4G
- video conference
- clipvideo
- conference
หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์ การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผลข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วยกันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
- Keyboard
- Mouse
- Disk Drive
- Hard Drive
- CD-Rom
- Magnetic Tape
- Card Reader
- Scanner
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผลข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วยกันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
- Keyboard
- Mouse
- Disk Drive
- Hard Drive
- CD-Rom
- Magnetic Tape
- Card Reader
- Scanner
2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)
ทําหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
- หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับอุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
- หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากหน่วยควบคุม และหน่วยความจํา
ทําหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
- หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับอุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
- หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากหน่วยควบคุม และหน่วยความจํา
3. หน่วยความจำ (Memory)
ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยังเก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็นหน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่งหรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
- ROM หน่วยความจําแบบถาวร
- RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
- หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลักสามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น
ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยังเก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็นหน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่งหรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
- ROM หน่วยความจําแบบถาวร
- RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
- หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลักสามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น
4. หน่วยแสดงผล (Output Unit)
ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
- Monitor จอภาพ
- Printer เครื่องพิมพ์
- Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ
ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
- Monitor จอภาพ
- Printer เครื่องพิมพ์
- Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ
คอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆมีขนาดใหญ่มาก แต่มีความสามารถไม่เท่าปัจจุบัน ในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์กะทัดรัดมีความสามารถสูงมาก จากระบบที่ทำหน้าที่คำนวณทางคณิตศาสตร์อย่างเดียวมาเป็นระบบที่ทำการประมวลผลได้หลายอย่าง เช่น ประมวลผลเกี่ยวกับภาพและเสียง หรือจากที่แยกกันทำงานสามารถทำงานร่วมกันได้ พัฒนาการคอมพิวเตอร์ 3 ด้านคือ
1. การพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์
2.การพัฒนาด้านซอฟต์แวร์
3.การพัฒนาด้านระบบเครือข่าย
การสื่อสารข้อมูล(Data communication)
คือการรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป โดยผ่านระบบสาย หรือ ระบบไร้สายก็ได้ซึ่งข้อมูลที่รับส่งจะต้องอยู่ในรูปแบบรหัสดิจิทัลหรือสามารถแปลเป็นรหัสดิจิทัลได้
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
1.ระบบคอมพิวเตอร์
2.อุปกรณ์ต่อเชื่อมเพื่อการสื่อสารข้อมูล
3.ซอฟต์แวร์สำหรับการสื่อสารข้อมูล
4.เกณฑ์วิธี(Protocol)คือข้อกำหนดหรือระเบียบวิธีสำหรับการสื่อสารข้อมูลแบบนั้นๆ
5.สื่อนำข้อมูล(Media)เช่นสายโทรศัพท์ เคเบิลใยแก้วนำแสง หรือคลื่นวิทยุ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ
1.เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่(Local Area Natwork) หรือแลน(Lan)
2.เครือข่ายบริเวณนครหลวง(Metropolitan Area Natwork)
3.เครือค่ายบริเวณกว้าง(Wide Area Network)หรือแวน(Wan)
4.เครือข่ายอินเทอร์เน็ต(Internet)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น